บทที่1
The
STUDIES MODEL : การจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน
การจัดการเรียนรู้ละการจัดการในชั้นเรียนตามรูปแบบ
The
STUDIES MODel มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อตอบสนองหลักการและเหตุผลสำคัญในการกำหนดแนวทางพัฒนาวิชาชีพครู
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 9 (4) ที่ได้กำหนดบทบัญญัติให้มีหลักการส่งเสริมมาตรฐาน
วิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และการพัฒนาครู คณาจารย์
และบุคลากรทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
รูปแบบ
The
STUDIES Model มุ่งพัฒนานักศึกษาวิชาชีพครูให้มีความรู้ ความสามารถ
คุณลักษณะความเป็นครูตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามที่คุรุสภาได้ประกาศเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพไวและสอดคล้องกับแนวคิดอาจารย์มืออาชีพแนวคิด
เครื่องมือ และหลักการพัฒนา(ไพฑูรย์ สินลารัตน์ 2550 บรรณาธิการ เครือข่าย การพัฒนาวิชาชีพและองค์การอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย )
ในการปรับปรุงคุณภาพด้านการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาในประเด็นการพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นสัมฤทธิ์ผลในการปรับปรุงศักยภาพการเรียนของนักศึกผ่ารกระบวนการเรียนการสอนเป็นหลัก
กรอบแนวคิดที่มา The
STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model เป็นผลสืบเนื่องจากการศึกษาวิจัยเพื่องส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน
สำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู ศึกษาวิเคราะห์หลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐในการจัดการศึกษายุค Thailand 4.0 หรือยุคการศึกษา 4.0 มาตรฐานวิชาชีพครู พ.ศ. 2556 แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
(constructivist Learning Method : CLM ) การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
(university Design of Instruction ;UDI) การวัดผลการเรียนรู้
การกำหนดระดับความเข้าใจ ในการกำหนดค่าระดับคุณภาพการเรียนรู้ตามแนวคิดSOLO
Taxonomy ผลการศึกษาวิจัยได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่เรียกว่า TheSTUDIES
Model มีรายละเอียดกรอบแนวคิด ( The STUDIES Model framework
) ดังแผนภาพประกอบที่ 1
รูปแบบ
The
STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชีพครู
มีความรู้ความเข้าใจบทบาทที่สำคัญในบานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้
และจัดการชั้นเรียน รายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2
ภาพประกอบที่
2 รูปแบบ The STUDIES Model
ที่มา นางสาวสุดารตน์ พิมพเสน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ เลขที่ 15 ห้อง 602
รูปแบบ
The
STUDIES Modelมี 7 ขั้นตอน
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
S :กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ (
Setting learning goals) การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้
ผู้เรียนต้องระบุจุดหมายการเรียนรู้ (goals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ
โดยการระบุความรู้ในรูปของสารสนเทศ (declarative knowledge) และระบุทักษะ
การปฏิบัติ หรือกระบวนการ (procedural knowledge) จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียน
ปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุด
แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
และเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
T
:วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ
เพื่อให้ได้ความรู้(knowledge) ทักษะ(skill) และเจตคติ(Attitude) ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้
การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ
Knowledge-Skill-Attitudes
U :การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
( Universal Design for Instruction UDI) เป็นการออกแบบ
การสอนที่ครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก (proactive)
เกี่ยวกับการผลิตและจัดหาจัดทำหรือชี้แนะนำผลิตภัณฑ์การศึกษาและสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
D :การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล
(Digital Learning)
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย เช่น
เครือข่ายสังคมออนไลน์(Social networking) การแชร์ภาพ
และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา (content)
จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Reflection)
ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงานและชีวิตประจำวัน
I :การบูรณาการความรู้
(Integrated Knowledge) การเชื่องโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ
ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง
ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
เป็นกระบวนการจดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ และเจตคติ
E :การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน
( Evaluation to Improve Teaching)
การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง
โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้ ของบลูม (Bloom
‘s Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน
เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
S :การประเมินอิงมาตรฐาน
(Standard Based Assessment)
การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้
มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นการตรวจสอบคุณภาพการเรียนรู้ รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก
การปรับปรุงรายวิชา
สาขาวิชาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต พ.ศ. 2556 เป็นหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต ปรับปรุง พ.ศ.2561 และปรับเปลี่ยนรายวิชา
การออกแบบและการจัดการเรียนรู้ เป็นรายวิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
รายละเอียดการปรับปรุง คือ ชื่อรายวิชา รหัสวิชา
จำนวนชั่วโมงในการจัดการเรียนการสอน และคำอธิบายรายวิชา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
เพื่อให้สาระและสมรรถนะในการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ที่คุรุสภากำหนด
หนังสือ The STUDIES Model: การจัดการเรียนรุ้และการจัดการชั้นเรียน
เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ดังกล่าว
สรุป
การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
เป็นวิชาที่นักศึกษาวิชาชีพครูจะต้องศึกษาไว้ให้แตกฉานรูปแบบ The
STUDIES Model
เป็นการนำเสนอให้รู้จักหลักเกณฑ์หรือแนวทางในการจัดการเรียนรู้ กล่าวได้ว่า
การเรียนรู้รูปแบบ The STUDIES Model อย่างเดียว
แต่ถ้าไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริงๆก็คงสอนไม่ได้ดี รูปแบบ The STUDIES Model พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้สอนได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้
เพื่อให้ตัดสินใจได้ว่าในการจัดการเรียนรู้ควรปรับปรุงแก้ไขประเด็นใด
เมื่อผู้สอนได้แบบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจนแล้วการจัดการเรียนรู้ต่อไปก็จะง่ายขึ้น
ถ้าเป็นไปได้ก็คิดขั้นตอนกระบวนการของตนเองมาบ้าง ไม่ต้องเดินตามวิธีการที่ผู้อื่นกำหนดไว้เสมอไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น