วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

บทที่ 1 การจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน


บทที่1
The STUDIES MODEL : การจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน
การจัดการเรียนรู้ละการจัดการในชั้นเรียนตามรูปแบบ The STUDIES MODel มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อตอบสนองหลักการและเหตุผลสำคัญในการกำหนดแนวทางพัฒนาวิชาชีพครู ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ..2542 มาตรา 9 (4) ที่ได้กำหนดบทบัญญัติให้มีหลักการส่งเสริมมาตรฐาน วิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
          รูปแบบ The STUDIES Model มุ่งพัฒนานักศึกษาวิชาชีพครูให้มีความรู้ ความสามารถ คุณลักษณะความเป็นครูตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามที่คุรุสภาได้ประกาศเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพไวและสอดคล้องกับแนวคิดอาจารย์มืออาชีพแนวคิด เครื่องมือ และหลักการพัฒนา(ไพฑูรย์ สินลารัตน์ 2550 บรรณาธิการ เครือข่าย การพัฒนาวิชาชีพและองค์การอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ) ในการปรับปรุงคุณภาพด้านการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาในประเด็นการพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นสัมฤทธิ์ผลในการปรับปรุงศักยภาพการเรียนของนักศึกผ่ารกระบวนการเรียนการสอนเป็นหลัก
กรอบแนวคิดที่มา The STUDIES Model
          รูปแบบ The STUDIES Model เป็นผลสืบเนื่องจากการศึกษาวิจัยเพื่องส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน สำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู ศึกษาวิเคราะห์หลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐในการจัดการศึกษายุค Thailand 4.0  หรือยุคการศึกษา 4.0 มาตรฐานวิชาชีพครู พ.. 2556 แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (constructivist Learning Method : CLM ) การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (university Design of Instruction ;UDI) การวัดผลการเรียนรู้ การกำหนดระดับความเข้าใจ ในการกำหนดค่าระดับคุณภาพการเรียนรู้ตามแนวคิดSOLO Taxonomy ผลการศึกษาวิจัยได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่เรียกว่า TheSTUDIES Model มีรายละเอียดกรอบแนวคิด ( The STUDIES Model framework ) ดังแผนภาพประกอบที่ 1

  
รูปแบบ The STUDIES Model
รูปแบบ The STUDIES Model มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชีพครู มีความรู้ความเข้าใจบทบาทที่สำคัญในบานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอน และมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้ และจัดการชั้นเรียน รายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2

ภาพประกอบที่ 2 รูปแบบ The STUDIES Model

ที่มา นางสาวสุดารตน์ พิมพเสน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ เลขที่ 15 ห้อง 602

          รูปแบบ The STUDIES Modelมี 7 ขั้นตอน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
                    S :กำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ( Setting learning goals) การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องระบุจุดหมายการเรียนรู้ (goals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ โดยการระบุความรู้ในรูปของสารสนเทศ (declarative knowledge) และระบุทักษะ การปฏิบัติ หรือกระบวนการ (procedural knowledge) จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียน ปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุด แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
                   T :วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้ความรู้(knowledge) ทักษะ(skill) และเจตคติ(Attitude) ที่เกี่ยวข้องเพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้ การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ Knowledge-Skill-Attitudes

                   U :การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล ( Universal Design for Instruction UDI) เป็นการออกแบบ การสอนที่ครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก (proactive) เกี่ยวกับการผลิตและจัดหาจัดทำหรือชี้แนะนำผลิตภัณฑ์การศึกษาและสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
                   D :การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์(Social networking) การแชร์ภาพ และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา (content) จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงานและชีวิตประจำวัน
                   I :การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge) การเชื่องโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นกระบวนการจดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ และเจตคติ
                   E :การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน ( Evaluation to Improve Teaching) การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้ ของบลูม (Bloom ‘s Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
                   S :การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard Based Assessment) การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นการตรวจสอบคุณภาพการเรียนรู้ รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก
การปรับปรุงรายวิชา
          สาขาวิชาหลักสูตรและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต พ.. 2556 เป็นหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต ปรับปรุง พ..2561 และปรับเปลี่ยนรายวิชา การออกแบบและการจัดการเรียนรู้ เป็นรายวิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน รายละเอียดการปรับปรุง คือ ชื่อรายวิชา รหัสวิชา จำนวนชั่วโมงในการจัดการเรียนการสอน และคำอธิบายรายวิชา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้สาระและสมรรถนะในการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ที่คุรุสภากำหนด หนังสือ The STUDIES Model: การจัดการเรียนรุ้และการจัดการชั้นเรียน เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ดังกล่าว

สรุป
          การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน เป็นวิชาที่นักศึกษาวิชาชีพครูจะต้องศึกษาไว้ให้แตกฉานรูปแบบ The STUDIES Model เป็นการนำเสนอให้รู้จักหลักเกณฑ์หรือแนวทางในการจัดการเรียนรู้ กล่าวได้ว่า การเรียนรู้รูปแบบ The STUDIES Model อย่างเดียว แต่ถ้าไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริงๆก็คงสอนไม่ได้ดี รูปแบบ The STUDIES Model พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้สอนได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ตัดสินใจได้ว่าในการจัดการเรียนรู้ควรปรับปรุงแก้ไขประเด็นใด เมื่อผู้สอนได้แบบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจนแล้วการจัดการเรียนรู้ต่อไปก็จะง่ายขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็คิดขั้นตอนกระบวนการของตนเองมาบ้าง ไม่ต้องเดินตามวิธีการที่ผู้อื่นกำหนดไว้เสมอไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น